Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the litespeed-cache domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home/new_infoquest/public_html/wp-includes/functions.php on line 6121
ราคาทองในประเทศเช้านี้ปรับลงบาทละ 200 นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น : อินโฟเควสท์

ราคาทองในประเทศเช้านี้ปรับลงบาทละ 200 นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น

สมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทอง (ทองคำ 96.5%) ในประเทศ เมื่อเวลา 09.27 น. วันนี้ ปรับตัวลดลงบาททองคำละ 200 บาท โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 28,400.00 บาท ขายออกบาททองคำละ 28,500.00 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 27,894.40 บาท ขายออกบาททองคำละ 29,000.00 บาท

บทวิเคราะห์จากบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดดิ่งลง 28.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ราคาทองคำจะเปิดตลาดในปี 2565 ด้วยการปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ครั้งใหม่บริเวณ 1,831.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าของตลาดเอเชีย แต่ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยเผชิญกับแรงขายทำกำไรตลอดทั้งวัน ก่อนที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงแรงในช่วงตลาดสหรัฐ โดยได้รับแรงกดดันหลักมาจากการที่นักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk on) จากมุมมองบวกที่ว่าไวรัสโควิด19 สายพันธุ์โอมิครอน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ แรงขายพันธบัตรได้หนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.6% แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่1.64% ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน การพุ่งขึ้นของบอนด์ยีลด์ได้ผลักดันให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นตาม ประกอบกับนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.ปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนบอนด์ยีลด์และดอลลาร์เพิ่มเติม ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้เกิดแรงขายจนกระทั่งราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,797.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คำแนะนำ ที่บริเวณ 1,797-1,793 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดแนะนำเสี่ยงเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว ทั้งนี้สามารถทยอยแบ่งปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,817-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ม.ค. 65)