ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (18 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอผลการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และความตึงเครียดที่ยังดำเนินอยู่ในตะวันออกกลางยังเพิ่มความไม่แน่นอนในตลาด
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 540.33 จุด ลดลง 1.93 จุด หรือ -0.36%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,656.12 จุด ลดลง 27.61 จุด หรือ -0.36%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,317.81 จุด ลดลง 116.84 จุด หรือ -0.50% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,843.47 จุด เพิ่มขึ้น 9.44 จุด หรือ +0.11%
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอลยังยืดเยื้อต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 โดยเกิดความกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้อิหร่านยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข
อย่างไรก็ตาม อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว
หุ้นกลุ่มกลาโหมปรับตัวขึ้น 0.6% สวนทางตลาด
บรรดานักลงทุนยังคงหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งมีการประกาศผลประชุมหลังปิดตลาดยุโรป โดยตลาดคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม
นักลงทุนจะจับตาคำแถลงของคณะกรรมการเฟดอย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณว่า เฟดมีแนวโน้มจะดำเนินนโยบายอย่างไรในสภาพแวดล้อมทางการค้าที่ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
นักวิเคราะห์รายหนึ่งให้ความเห็นว่า ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และการค้าอาจทำให้การคาดการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อของเฟดขาดความแม่นยำ ขณะที่เฟดยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเพิ่มเติมจากวิกฤตการณ์ในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรง
ขณะที่เส้นตายระงับการขึ้นภาษีจะหมดอายุในวันที่ 8 ก.ค. หลายประเทศรวมถึงสหภาพยุโรปต่างเร่งทำข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐ โดยเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยนประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ยังคงตั้งเป้าที่จะบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 9 ก.ค.
จนถึงขณะนี้ ข้อตกลงฉบับเดียวที่มีการลงนามอย่างเป็นทางการคือข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักร ที่ประกาศไว้เมื่อเดือนก่อน
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์เป็นกลุ่มที่กดดันตลาดมากที่สุด โดยได้รับผลกระทบจากราคาหุ้นของโนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) ที่ลดลง 1% หลังผู้พิพากษาสหรัฐฯ ยืนยันคำตัดสินของสำนักงานอาหารและยา (FDA) ในการถอดยา Ozempic และ Wegovy ซึ่งเป็นยาหลักของบริษัทออกจากบัญชียาขาดแคลน
อย่างไรก็ตาม ธนาคารบาร์เคลย์ส (Barclays) คาดการณ์ว่า ดัชนี STOXX 600 จะขึ้นไปแตะระดับ 620 ภายในสิ้นปี 2569 โดยมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเยอรมนีและแนวโน้มการลดดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 68)
