ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานแนะภาครัฐพลิกวิกฤตเป็นโอกาส หลังสถานการณ์ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากปัญหาการสู้รบในตะวันออกกลางระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล เพื่อให้แนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องราคาพลังงานอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันยังสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเกษตรกรรมของประเทศ พร้อมช่วยลดมลพิษทางอากาศด้วย
“เป็นโอกาสดีที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ส่งเสริมการผลิตและการใช้เอทานอลกับไบโอดีเซลเพิ่มมากขึ้น” นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าว
เนื่องจากการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาเป็นเพียงมาตรการปลายเหตุที่ช่วยบรรเทาผลกระทบได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เช่น การนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงออกมาชดเชยราคา ซึ่งในระยะยาวเป็นการสร้างภาระให้กับประเทศ แต่หากมีการปรับเปลี่ยนนโยบายไปส่งเสริมให้มีการผลิตและการใช้เอทานอลกับไบโอดีเซลที่เป็นพลังงานสะอาดช่วยลดมลพิษ ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเกษตรกรรม ช่วยลดภาระงบประมาณที่รัฐบาลต้องนำไปใช้พยุงราคาสินค้าเกษตรเพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ
“การเพิ่มสัดส่วนการใช้เอทานอลและไบโอดีเซลจะเป็นการพึ่งพาตัวเองมากขึ้น ไม่ต้องกังวลหากเกิดสถานการณ์ราคาน้ำมันผันผวนขึ้นมาอีก” นายอิศเรส กล่าว
ทั้งนี้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลักลั่น โดยกำหนดสัดส่วนการเพราะปลูกพืชที่จะใช้เป็นอาหารและพลังงานอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมต้นทุนการผลิตที่เหมาะสม ไม่สร้างภาระเรื่องค่าครองชีพ
“ถ้าไม่กำหนดสัดส่วนให้สมดุลก็มีจะปัญหาการผลิตในส่วนที่ได้ราคาดีกว่าตามมา” นายอิศเรส กล่าว
นอกจากนี้ภาครัฐควรเปิดโอกาสในการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน เช่น การตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) พลังงาน ซึ่งได้มีการเสนอภาครัฐไปนานแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มิ.ย. 68)
