
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในสถานการณ์ที่มีปัญหารอบด้านทั้งความขัดแย้งในตะวันออกกลาง การเจรจาปัญหาภาษีกับทางการสหรัฐ และ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เสถียรภาพของรัฐบาลและความสามัคคีภายในประเทศของคนในชาติเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จึงขอให้รัฐมนตรีทุกคนทำงานอย่างใกล้ชิดกับประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจและแก้ไขปัญหาให้ทันการณ์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านมีโอกาสขยายวงกว้างออกไป จะส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม โดยยังไม่มีกรอบเวลาว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะยุติอย่างไร
รวมถึงผลกระทบจากการเจรจาปัญหา Reciprocal Tariff ของสหรัฐฯ ที่กำหนดกรอบระยะเวลา 90 วันในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งไทยได้เริ่มเจรจากับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แล้ว 1 รอบแต่ยังไม่ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ สถานการณ์ดังกล่าวย่อมส่งผลถึงเศรษฐกิจโลก รวมถึงประเทศไทย ไม่ว่าเป็นเรื่อง ปริมาณและราคาพลังงาน การเงิน การคมนาคม และการท่องเที่ยว ที่จะส่งผลถึงเศรษฐกิจของประเทศไทย และความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอย่างมาก
ขณะที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชานั้นได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรีทุกคนร่วมกันติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมหามาตรการรองรับในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดผลกระทบกระเทือนต่อประชาชนน้อยที่สุด
นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการดังนี้
- ปัญหาด้านภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามประเทศ Transnational crimes ตามรายงานของ UNODC (UN on Drugs and Crime) ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะใช้มาตรการตอบโต้ในการเปิด-ปิดด่านชายแดนเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดปัญหาประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ เช่น ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินมาตรการดูแลสินค้าเกษตร
- ปัญหาด้านความมั่นคงพลังงาน มอบให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน รับผิดชอบในการกำหนดมาตรการเตรียมพร้อม รับมือสำหรับพลังงานสำรอง และมาตรการช่วยเหลือประชาชน หากมีภาวะขาดแคลนหรือมีราคาที่สูงขึ้น
- ปัญหาด้านเศรษฐกิจ และการเงิน การแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน มอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นผู้รับผิดชอบ หารือหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน กำหนดมาตรการและเป้าหมายที่ชัดเจน
- ปัญหาราคาพืชผลเกษตร มอบให้นายพิชัย หารือร่วมกับ รมว.พาณิชย์ และ รมว.เกษตรฯ เร่งหามาตรการแก้ไขปัญหาโดยด่วน โดยเฉพาะราคาข้าว ต้องเร่งสรุปมาตรการเยียวยาโดยเร็ว รวมถึงปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ราคาพืชผลเกษตรภายในประเทศตกต่ำ โดยขอให้กรมศุลกากร สรุปปัญหาและมาตรการแก้ไขมาเสนอพร้อมกับมาตรการยกระดับราคาพืชผลเกษตรภายในสัปดาห์หน้า
- ปัญหายาเสพติด มอบให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เตรียมจัดการประชุมด่วนระหว่างนายกรัฐมนตรี กับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจทุกจังหวัด เพื่อมอบนโยบายและกำชับมาตรการที่เป็นรูปธรรม กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ขยายผลต่อเนื่องจากมาตรการ Seal Stop Safe ภายในสัปดาห์หน้า
- ปัญหาการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องจักรสำคัญของการสร้างรายได้ และกระจายรายได้ มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวๆ เร่งปรับมาตรการกระตุ้น ท่องเที่ยว ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มาเสนอภายในสัปดาห์หน้า โดยขอให้เน้นย้ำการเสนอมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ที่เป็นรูปธรรมและเห็นผลได้ อย่างรวดเร็ว
- ปัญหาเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ มอบให้กระทรวงแรงงานเร่งนำมาตรการขึ้นค่าแรงเข้า ครม. สัปดาห์หน้า ให้ทันต้นเดือนกรกฎาคมนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มิ.ย. 68)