[TEST] รทสช. แจงเหตุผลร่วมรัฐบาลต่อแม้ฉุดกระแสนิยม หวังผลักดันกม.เพื่อประโยชน์ประชาชน

นายหิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน และผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถึงการตัดสินใจร่วมรัฐบาลของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าเพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของประชาชน ชี้เป็นการเสียสละ แม้ต้องแลกกับกระแสนิยม

ในส่วนของรัฐบาลนั้น มีงานเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการ คือ การผ่านร่างงปประมาณ ปี 69 เพื่อใช้ในการบริหารประเทศ ซึ่งถ้าหากต้องยุบสภาฯ ในช่วงนี้ งบประมาณปี 69 ก็ต้องหยุดชะงัก และเริ่มต้นใหม่หลังจากรัฐบาลใหม่ ซึ่งน่าจะใช้เวลาต่อจากนี้ไปอีกประมาณ 9 เดือน ทำให้การบริหารประเทศต้องหยุดชะงักลงอย่างเปล่าประโยชน์ แต่หากผ่านงบประมาณแล้ว การบริหารประเทศก็จะสามารถดำเนินต่อไปได้

ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น มีกฎหมายพลังงานหลายฉบับที่จะต้องพยายาม นำเข้า ครม. และสภาฯ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชนให้มากที่สุด โดยเฉพาะกฎหมาย “โซลาร์รูฟเสรี” อยู่ในขั้นตอนที่พร้อมจะนำเข้า ครม. และเข้าสภาฯ ในวาระที่จะถึงนี้ ซึ่งถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่าน อย่างน้อยประชาชน และผู้ประกอบการ จะมีพลังงานทางเลือกสำหรับพึ่งพาตนเองได้ และหากโชคดี กฎหมายที่เกี่ยวกับน้ำมัน, ไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม สามารถนำเข้าสภาฯ ได้ทัน ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อประชาชน

“ในการตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยต่อไป จะต้องโดนกระแสการต่อต้าน และไม่พึงพอใจจากประชาชน ผมคิดว่าท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ย่อมทราบดี ว่าการตัดสินใจเช่นนี้ของท่าน อาจทำให้กระแสนิยมของท่านและพรรคตกลง แต่เมื่อเทียบกับโอกาสที่จะฝากกฎหมายดี ๆ ไว้ให้ประเทศนี้ และผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับในระยะยาว ย่อมเป็นสิ่งที่นักการเมืองที่ดีพึ่งกระทำ” นายหิมาลัย กล่าว

ขณะที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยอมรับว่า อยู่ในจุดที่ตัดสินใจยาก ที่ผ่านมา ได้ทำการเมืองโดยใช้อุดมการณ์เป็นที่ตั้ง แต่ก็ต้องรับสภาพกับสิ่งที่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติด้วย ซึ่งพยายามคุยกับ สส. และหัวหน้าพรรคตลอดเวลา โดยต้องเลือกทางที่ดีที่สุด และอยู่ประคับประคองให้ผ่านสถานการณ์วิกฤติไปก่อน ซึ่งขณะนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เพราะมีเรื่องศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาเกี่ยวกับตัวนายกรัฐมนตรีอีกในสัปดาห์หน้า ฉะนั้นเหตุการณ์อะไรก็เกิดขึ้นได้ จึงต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด

“สิ่งที่เราอยากทำ กับสิ่งที่เราต้องทำ มันตัดสินใจไม่ง่ายเลย ให้มันผ่านสถานการณ์แบบนี้ไปได้ก่อน…ถือเป็นประสบการณ์การเมืองที่แย่ที่สุด จะตัดสินใจทำอะไร ก็ไม่ง่าย ในพรรคก็มีการพูดคุยกันตลอด ตอนนี้ รทสช. มีทั้งศึกนอกศึกใน…แต่วันนี้ผมเป็นกัปตันเรือ ก็กำลังล่องผ่านมรสุม ถ้าให้ผมทิ้งตอนนี้ คนบนเรือก็ตายกันหมด” นายเอกนัฏ ระบุ

ส่วนการจัดสรรรัฐมนตรีในโควต้า รทสช.นั้น นายเอกนัฏ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาการตัดสินใจว่าใครจะอยู่ หรือใครจะไปเรื่องตำแหน่งนั้น ไม่ได้มีอยู่ในหัวเลย เพราะไม่ได้ยึดติด ถ้าใครอยากได้ตำแหน่งก็เอาไปได้เลย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มิ.ย. 68)