[TEST] กรรมการ BOJ สายเหยี่ยวส่งสัญญาณอาจต้องขึ้นดอกเบี้ย “อย่างเด็ดขาด” รับมือเงินเฟ้อ

นาโอกิ ทามูระ หนึ่งในกรรมการบอร์ดธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งมีแนวคิดสายเหยี่ยว (Hawkish) กล่าววันนี้ (25 มิ.ย.) ว่า BOJ อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย “อย่างเด็ดขาด” เพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น แม้จะยังมีความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ก็ตาม โดยเขามองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เป้าหมายเสถียรภาพด้านราคา 2% ของญี่ปุ่นจะบรรลุได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

“ไม่น่าเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะกลับตัวเป็นขาลง” ทามูระกล่าวกับกลุ่มผู้นำธุรกิจในฟุกุชิมะ พร้อมชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคของญี่ปุ่นในเดือนเม.ย.และพ.ค.นั้นแข็งแกร่งกว่าที่คาด และการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะกลางถึงยาวของภาคธุรกิจและครัวเรือนก็ได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ราว 2% แล้ว

ท่าทีของทามูระนั้นแตกต่างจากคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ซึ่งก่อนหน้านี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ “สูงอย่างยิ่ง” เกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยทามูระแย้งว่า แม้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ อาจทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นชะลอตัว แต่จะไม่ถึงกับทำให้ตกราง เนื่องจากผลกระทบส่วนใหญ่อยู่ในภาคการผลิตซึ่งมีสัดส่วนเพียง 20% ของ GDP

ในการประชุมนโยบายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว BOJ ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% โดยทามูระ ซึ่งเป็นอดีตนายธนาคารพาณิชย์ เป็นเสียงข้างน้อยเพียงคนเดียวที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจชะลอการลดขนาดงบดุลในปีหน้า และเสนอให้คงระดับการลดการซื้อพันธบัตร (Bond Tapering) ในอัตราปัจจุบันต่อไป

ทั้งนี้ BOJ ได้ยุติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ดำเนินมานับทศวรรษเมื่อปีที่แล้ว และได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็น 0.5% เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ทำให้การตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

รายงานสรุปความคิดเห็น (Summary of Opinions) ที่เผยแพร่วันนี้ชี้ให้เห็นว่า กรรมการ BOJ มีความเห็นแตกเป็นสองฝ่ายระหว่างฝ่ายที่ต้องการคงดอกเบี้ยต่ำเพื่อประเมินผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ กับฝ่ายที่ชี้ถึงแรงกดดันเงินเฟ้อในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มิ.ย. 68)