
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ เปิดเผยกับสำนักข่าวโพลิติโก (Politico) ในวันนี้ (25 มิ.ย.) ว่า ปฏิบัติการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์หลัก 3 แห่งของอิหร่านเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้อิหร่าน “อยู่ห่างไกลจากการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”
ถ้อยแถลงของรูบิโอมีขึ้นหลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์และสื่ออื่น ๆ รายงานเมื่อวันอังคาร (24 มิ.ย.) โดยอ้างการประเมินเบื้องต้นจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ผ่านแหล่งข่าวว่า การโจมตีดังกล่าวอาจชะลอโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
รูบิโอยืนยันว่าการโจมตีครั้งนี้สร้างความเสียหาย “อย่างมีนัยสำคัญและเป็นวงกว้าง” ต่อองค์ประกอบต่าง ๆ ของโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน เขาย้ำว่า “ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ วันนี้พวกเขาอยู่ห่างไกลจากอาวุธนิวเคลียร์มากกว่าก่อนปฏิบัติการ” นอกจากนี้ รูบิโอยังกล่าวว่ารายงานของสื่อนั้น “เป็นเท็จ” และไม่ได้สะท้อนข้อเท็จจริงทั้งหมด
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และทำเนียบขาว ก็ได้ออกมาปฏิเสธรายงานประเมินดังกล่าวเช่นกัน โดยทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล (Truth Social) ว่าโรงงานนิวเคลียร์ถูกทำลาย “อย่างราบคาบ” ขณะที่แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า ข้อสรุปที่ถูก “กล่าวอ้าง” นั้น “ผิดถนัด”
ปัจจุบัน ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านซึ่งมีทรัมป์เป็นผู้ไกล่เกลี่ย ดูเหมือนจะยังคงมีผลบังคับใช้ หลังจากทั้งสองฝ่ายส่งสัญญาณยุติปฏิบัติการทางอากาศ
ทั้งนี้ อิสราเอลเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีทางอากาศอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. โดยมุ่งเป้าไปยังโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านและสังหารผู้บัญชาการทหารระดับสูงหลายนาย ขณะที่อิหร่าน ซึ่งปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่ได้พยายามสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ได้ยิงขีปนาวุธตอบโต้ใส่ฐานทัพและเมืองของอิสราเอลหลายแห่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มิ.ย. 68)